ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็ไม่
ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
เคยดับ.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ
วจีสังขารมูล
วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[1177] วจีสังขารไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, จิตตสังขารก็
ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ไม่มี.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่
เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
เคยดับ.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ
[1178] กายสังขารไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[1179] กายสังขารไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจี-
สังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิ
ก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารจัก
ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมที่จิตที่มีวิตกและมี
วิจารในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพ-
พานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร